- ซื้อกองทุนแบบไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะวัตถุประสงค์แค่อยากลดหย่อนภาษีเท่านั้น
- ซื้อแต่กองทุนกองเดิม ๆ แบบไม่ใส่ใจ เพราะความคุ้นชิน
- ซื้อแล้วซื้อเลย ไม่เคยปรับพอร์ตอีก
- คล้อยตามเทรนด์ เห็นใครว่ากองไหนดี ก็ซื้อกองนั้นเลย
รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราพลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนเท่านั้น แต่ยังทำให้พอร์ตการลงทุนของเราเผชิญกับความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
สาเหตุสำคัญของพฤติกรรมเหล่านี้ เกิดจากการขาดความรู้และความเข้าใจถึงการกระจายความเสี่ยงที่ถูกต้องต่อความผันผวนของตลาด ซึ่งการละเลยหรือไม่ใส่ใจพอร์ตการลงทุนอย่างเพียงพอ อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวของเราได้
แต่ปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธี “Asset Allocation” ในกองทุนลดหย่อนภาษี เพื่อให้เป้าหมายของคุณได้ไปต่อ..
Asset Allocation คืออะไร ?
การกระจายเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสม
ทำไมนักลงทุนถึงมองข้าม ?
- ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องกระจายความเสี่ยง
- เชื่อว่าตนเองสามารถเลือกสินทรัพยฺที่ชนะตลาดได้
- มองข้ามผลกระทบของความผันผวนในตลาดระยะยาว
โดย Asset Allocation คือ การกระจายเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ และเงินสด ซึ่งต้องกำหนดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนไปพร้อม ๆ กัน
แล้วทำไม Asset Allocation ถึงสำคัญสำหรับการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ลองไปสำรวจเหตุผลสำคัญไปด้วยกัน
- รับมือกับความผันผวนของตลาดโลกของการลงทุนนั้น มีความผันผวนเกิดขึ้นอยู่ตลอด ซึ่งความผันผวนที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ในกองทุนลดหย่อนภาษีแตกต่างกัน การกระจายการลงทุน จะช่วยให้เรารับมือกับความผันผวนได้ดีขึ้น และทำให้พอร์ตแข็งแกร่งในทุกสภาวะตลาด
- ปรับตัวตามช่วงชีวิตและรายได้อายุและรายได้ของเราย่อมเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ดังนั้น การปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมตามช่วงชีวิต เช่น ลดสัดส่วนหุ้น แล้วไปเพิ่มสัดส่วนในสินทรัพย์กลุ่มตราสารหนี้มากขึ้นเมื่อใกล้เข้าสู่วัยเกษียณ ก็ถือเป็นการช่วยลดความเสี่ยงได้เหมือนกัน
- ปรับปรุงประสิทธิภาพของพอร์ตเมื่อผลตอบแทนไม่เป็นไปตามคาดกองทุนลดหย่อนภาษีบางกอง อาจไม่ได้ให้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ก็ควรปรับเปลี่ยนไปยังกองทุนที่มีศักยภาพมากกว่า โดยอาจพิจารณาจากผลการดำเนินงานย้อนหลังเทียบกับตัวชี้วัด (Benchmark) แนวโน้มของตลาด ควบคู่ไปกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อยังคงรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษี และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น
ซึ่งการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่หุ้นไทยหรือตราสารหนี้ไทยเท่านั้น ปัจจุบันมีกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศให้เลือกหลากหลาย การมีพอร์ตที่ครอบคลุมทั้งไทยและต่างประเทศ ครอบคลุมกลยุทธ์หรือประเภทสินทรัพย์ที่หลากหลายสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาเศรษฐกิจเพียงประเทศเดียวหรือสินทรัพย์เพียงสินทรัพย์เดียว และยังเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัทชั้นนำระดับโลกได้
3 จุดเด่นของ abrdn
ผลิตภัณฑ์หลากหลาย
- ตอบโจทย์การลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีทั้ง SSF และ RMF
- อิสระในการเลือกธีมลงทุนที่ใช้ตามสไตล์
- เงินลงทุนเติบโตควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ความเชี่ยวชาญระดับโล
- ทีมวิจัยและนักวิเคราะห์ระดับมืออาชีพ
- เครือข่ายการลงทุนครอบคลุมทั่วโลก
- เทคโนโลยีการลงทุนที่ทันสมัย
กลยุทธ์การลงทุนตอบโจทย์
- วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้านตลาดและเศรษฐกิจ
- กระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์และภูมิภาค
- ปรับพอร์ตการลทุนตามสภาวะตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับใครที่กำลังมองหากองทุนที่น่าสนใจสำหรับการจัดพอร์ตกองทุนลดหย่อนภาษี บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด ก็พร้อมให้บริการจากประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ ในทุกตลาดและทั่วภูมิภาค จากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก พร้อมการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของบริษัท ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อค้นหากลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อการเพิ่มโอกาสการลงทุนในทุกจังหวะให้กับนักลงทุนทุกระดับ
หากใครที่ยังนึกไม่ออกว่าควรจะจัดพอร์ต Asset Allocation อย่างไรดี อาจเริ่มจากการแบ่งสัดส่วนการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และผสมผสานประเภทของสินทรัพย์ เช่น
สร้างสมดุลพอร์ตการลงทุนในไทย ผสมผสานตราสารหนี้และหุ้น
- กองทุน ABSI-RMF :สร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตด้วยตราสารหนี้และหุ้นกู้คุณภาพ
(ความเสี่ยงระดับ 4) - กองทุน ABSM-SSF/RMF :เฟ้นหาหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในไทยที่มีศักยภาพเติบโตสูง พร้อมก้าวเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในอนาคต
(ความเสี่ยงระดับ 6)
กระจายความเสี่ยง พร้อมยกระดับการลงทุนไปต่างประเทศ
- กองทุน ABGDD-SSF/RMFลงทุนในหุ้นเด่นทั่วโลก ผสมผสานลงตัวระหว่างหุ้นเติบโต และหุ้นคุณค่า ผ่านกองทุนหลัก abrdn SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund Z Gross MInc USD
(ความเสี่ยงระดับ 6) - กองทุน ABAPAC-RMF :ลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ผ่านกองทุนหลัก abrdn Pacific Equity Fund SGD class
(ความเสี่ยงระดับ 6)
หลังจากจัดสรรพอร์ตการลงทุนหลักแล้ว อาจเสริมด้วยการลงทุนในธีมที่น่าสนใจ เช่น
- กองทุน ABINNO-SSF :ลงทุนในอนาคตกับหุ้นนวัตกรรมระดับโลก ผ่านกองทุนหลัก abrdn SICAV I - Global Innovation Equities Fund Z Acc USD
(ความเสี่ยงระดับ 6) - กองทุน ABAGS-SSF :ทะยานไปกับหุ้นเล็กอนาคตไกลในสหรัฐฯ ที่พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านกองทุนหลัก abrdn SICAV I - North American Smaller Companies Fund Z Acc USD
(ความเสี่ยงระดับ 6)
สามารถศึกษารายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนต่าง ๆ ได้ที่ : โซลูชั่นการลงทุนสำหรับนักลงทุน | abrdn
ที่อเบอร์ดีน เราเชื่อว่าการลงทุนที่ชาญฉลาด เริ่มต้นจากความเข้าใจ นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่เพียงแค่นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการ แต่เรายังอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับ Asset Allocation ให้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับกองทุนลดหย่อนภาษีที่เน้นลงทุนระยะยาว
ซึ่งการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวม และสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงอย่างเดียว..
แค่รู้จัก Asset Allocation ก็ทำให้แผนการลงทุนของคุณพร้อมไปต่ออีกยาว ๆ ..
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
กองทุนรวมที่มีการลงทุนในต่างประเทศมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวน โทร. 02-352-3388 หรืออีเมล client.services.th@abrdn.com
#แผนใหม่ให้นักลงทุนไทยได้ไปต่อ
#SSF #RMF #abrdn #Assetallocation