เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมพอร์ตการลงทุนของเราถึงไม่เติบโตเหมือนนักลงทุนคนอื่น ?

บางทีคำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่การวิเคราะห์สินทรัพย์การลงทุนให้เก่งขึ้น แต่อยู่ที่การเปิดประตูสู่โอกาสลงทุนใหม่ ๆ ในทั่วทุกมุมโลก..

ในช่วงโค้งสุดท้ายของเทศกาลลดหย่อนภาษี 2024 นี้ หลายคนมักมองหาทางเลือกที่น่าสนใจ ที่ตอบโจทย์เรื่องของสิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งกองทุน ThaiESG ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่หลายคนเลือกพิจารณา ด้วยระยะเวลาถือครองเพียง 5 ปี ซึ่งสั้นกว่ากองทุนลดหย่อนภาษีประเภทอื่น ๆ

แต่ใครที่คิดจะทุ่มเงินไปกับกองทุน ThaiESG เพียงกองเดียว อาจต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เนื่องจากกองทุนประเภทนี้ เน้นลงทุนเฉพาะ ‘หุ้น’ หรือ ‘ตราสารหนี้’ ในไทยที่ผ่านเกณฑ์ด้าน ESG ตามเงื่อนไขที่กำหนด ถึง 80% ของ NAV นั่นหมายความว่า ถ้าเราเลือกลงทุนเฉพาะกองทุน ThaiESG โอกาสในการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มผลตอบแทนจากหุ้นหรือสินทรัพย์ในส่วนอื่น ๆ เช่น ตลาดต่างประเทศ จะมีเพียงไม่เกิน 20% เท่านั้น ซึ่งการทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดไปกับตลาดใดตลาดหนึ่ง หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง อาจทำให้เราพลาดโอกาสสำคัญ ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาวได้

แล้วผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก

เมื่อมองย้อนกลับไป 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2019 - 2024) เราจะเห็นภาพการเติบโตที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

  • ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Index : -9.96%
  • ดัชนีตลาดหุ้นกลุ่มประเทศยูโรโซน STOXX 50 : +50.14%
  • ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei 225 : +82.28%
  • ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ S&P500 : +110.62%

นอกจากนี้ หากเราลองเปรียบเทียบพันธบัตรรัฐบาลของไทยกับต่างประเทศ จะยิ่งเห็นภาพความแตกต่างอย่างชัดเจน

  • พันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี : -4.42%
  • พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี : +52.16%
  • พันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 10 ปี : +218.73%

ที่มา: Investing.com

จากตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การจำกัดการลงทุนไว้เฉพาะในประเทศไทย อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าจากตลาดโลกไปอย่างน่าเสียดาย

โดยการกระจายลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศ มีข้อดีอยู่หลายด้าน ได้แก่

  • กระจายความเสี่ยง
    ช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจในประเทศใดประเทศหนึ่ง และช่วยรักษาเสถียรภาพของพอร์ตโดยรวมจากวัฏจักรเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน
  • โอกาสลงทุนที่หลากหลาย
    เข้าถึงบริษัทระดับโลกในอุตสาหกรรมที่ไม่มีในไทย เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เปิดโอกาสรับผลตอบแทนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ ๆ
  • สร้างการเติบโตระยะยาว
    ผ่านการลงทุนในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขันสูง เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
  • พัฒนาทักษะการลงทุนของตัวเอง
    เพิ่มความเข้าใจในเศรษฐกิจโลก, นโยบายการเงินต่างประเทศ และปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดทั่วโลก ที่จะช่วยยกระดับการตัดสินใจลงทุนไปอีกขั้น

อย่างไรก็ตาม กองทุน ThaiESG ก็ยังมีข้อดีที่น่าสนใจ ด้วยระยะเวลาถือครองเพียง 5 ปี ที่สั้นกว่ากองทุนลดหย่อนภาษีประเภทอื่น อีกทั้งการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนไทยที่เราคุ้นเคย ยังช่วยให้เราติดตามและทำความเข้าใจธุรกิจได้ง่ายกว่า

แต่สำหรับเป้าหมายการสร้างพอร์ตที่แข็งแกร่งในระยะยาวนั้น อาจต้องพิจารณาผสมผสานการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเหมาะสม เพื่อให้การกระจายความเสี่ยงมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากใครที่รู้สึกว่าการกระจายลงทุนในต่างประเทศ เป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน กองทุน SSF (Super Savings Fund) ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการความคล่องตัวในการบริหารพอร์ตระยะยาว ด้วยจุดเด่นที่สำคัญ คือ การถือครองเป็นระยะเวลา 10 ปี ที่เพียงพอจะช่วยให้เราได้เห็น “พลังของดอกเบี้ยทบต้น” ซึ่งเหมาะกับการลงทุนในหุ้นเติบโตระดับโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี

ยิ่งถ้าใครชื่นชอบโมเดลดอกเบี้ยทบต้น และอยากมีแผนออมเงินเพื่อเป้าหมายในวัยเกษียณ กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทกองทุนที่น่าสนใจ นอกจากนำไปลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังต้องถือครองไปถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ถึงจะขายออกมาได้ ซึ่งระยะเวลาที่ถือครองนั้น ก็จะทำให้เห็นถึงพลังของดอกเบี้ยทบต้นได้อย่างเต็มที่เช่นกัน

นอกจากนี้ กองทุน SSF ยังมีหลากหลายนโยบายให้เลือกตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ตามสถานการณ์ตลาด ทำให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

กองทุน SSF

ทางเลือกของการกระจายลงทุนต่างประเทศ โอกาสรับผลตอบแทนพร้อมลดหย่อนภาษี

สำหรับท่านใดที่กำลังมองหากองทุน SSF ที่มีศักยภาพ และบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด หรือ abrdn พร้อมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการลงทุนของคุณ

ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารสินทรัพย์ระดับโลก abrdn มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพการลงทุนผ่านการผสมผสานสินทรัพย์หลากหลาย พร้อมประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังออกแบบกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์เป้าหมายเฉพาะราย โดยใช้การวิจัยและการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง ควบคู่กับการยึดหลัก ESG เพื่อค้นหาโอกาสลงทุนระดับโลกที่โดดเด่น

สามารถศึกษารายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนต่าง ๆ ได้ที่ : กองทุนรวมลดหย่อนภาษี | abrdn

*ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวน โทร. 02-352-3388 หรืออีเมล client.services.th@abrdn.com

#แผนใหม่ให้นักลงทุนไทยได้ไปต่อ

#SSF #abrdn #Assetallocation

บทความที่เกี่ยวข้อง

View all articles